ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

ระวัง! 7 สัญญาณที่กำลังบอกว่าน้องหมาของคุณมีไข้ (และคุณควรทำอย่างไรระหว่างรอเจอคุณหมอ)

หากเราจะตรวจดูว่าคนคนหนึ่งมีไข้หรือเปล่า ขั้นตอนการวินิจฉัยนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากท้าทายอะไรมากมายหรอก คุณแค่ต้องใช้ปรอทวัดไข้ก็เท่านั้น ภายในไม่ถึงหนึ่งนาที ตัวเลขดิจิทัลปรากฏและคลี่คลายข้อสงสัยให้คุณเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกหมาตัวน้อย ๆ นั้นมันต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เจ้าหมาน้อยกับปรอทวัดไข้อาจไม่ค่อยไปด้วยกันมากนัก ดังนั้น จงตั้งใจจับสัญญาณต่าง ๆ ที่อาจแสดงว่าเจ้าเพื่อนขนปุยของคุณอาจมีอาการไข้ซ่อนอยู่ให้ดี ๆ

ชีวิตสดใสอยากจะแบ่งปันสัญญาณต่าง ๆ ที่แสนมีประโยชน์ ที่จะช่วยทำให้คุณรู้ได้ว่าเจ้าหมาตัวน้อยของคุณมีไข้หรือไม่

1. ดวงตาของน้องเป็นสีแดง

ถ้าเราลองสังเกตให้ดี ๆ ดวงตาของสุนัขที่มีสุขภาพดีจะใสแจ๋วและเป็นประกายแวววาว ถ้าดวงตาคู่นั้นดูเป็นสีแดงและดูเหนื่อยล้าขึ้นมาเมื่อไหร่ เจ้าโฮ่งน้อยของคุณน่าจะมีไข้แบบน้องหมาอยู่นะ

2. น้องดูไม่กระตือรือร้นและดูหมดแรง

อาการป่วยไข้จะโจมตีร่างกายและทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ดังนั้น หากสุนัขที่เคยร่าเริงมาก ๆ วิ่งวนไปทั่วบ้านเพื่อหาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นหรือคน ๆ อื่นให้มาค่อยเล่นด้วย แต่แล้ววันหนึ่งมันกลับดูเหนื่อยล้าและแทบไม่อยากสื่อสารมีปฏิสัมพันธ์กับใคร คุณควรสังเกตอารมณ์หดหู่เหล่านี้ให้ดี ๆ เพราะมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการมีไข้ได้

3. ไม่อยากกินอาหาร

สิ่งที่มักจะมาควบคู่กับอาการเหนื่อยล้า คืออาการเบื่ออาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนภัยที่พบได้บ่อยที่สุดว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติแล้วล่ะ ลองให้อาหารหรือเล่นกับมันดู ถ้าไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่ามันรู้สึกถูกกระตุ้น หรือหากมันแทบไม่แตะขนมจานโปรดเลย ก็คิดได้เลยว่านี่เป็นคำบอกใบ้ว่าน้องกำลังมีไข้อยู่นะ

4. จมูกและใบหูน้องสัมผัสแล้วรู้สึกอุ่น ๆ

หนึ่งในส่วนที่ร้อนที่สุดของร่างกายลูกหมาน้อยของคุณก็คือจมูกของมัน ลูกหมาน้อยที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีควรมีจมูกที่สะอาดเอี่ยมอ่องและชื้นนิด ๆ ส่วนจมูกที่ร้อนเกินไปหรือแห้งจนเกินไปอาจเป็นอาการของการมีไข้ได้ อีกจุดหนึ่งที่คุณสามารถลองตรวจสอบดูได้ก็คือบริเวณใบหู ซึ่งไม่ควรมีอุณหภูมิอุ่นเกินกว่าอุณหภูมิร่างกายของตัวมันเอง หรือก็คือไม่ควรสัมผัสแล้วรู้สึกร้อนผ่าวกว่าส่วนอื่นของร่างกายนั่นแหละ

5. น้องตัวสั่น

ปกติแล้วสุนัขมักจะมีอาการตัวสั่นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้มันเครียด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนอยู่ในบ้านจำนวนมากกว่าปกติ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นในกรณีเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลหรือตกใจจนเกินไป นี่เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อสุนัขเกิดความเครียด อย่างไรก็ตาม หากอาการตัวสั่นนั้นมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้า ร่างกายตึงเครียด หรือมีอาการร่วมกับบางสัญญาณที่เราได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ให้โทร.นัดคุณหมอได้เลย

6. น้องไอแค่ก ๆ

สำหรับเจ้าโฮ่งน้อยแล้วนั้น ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีอาการไออย่างรุนแรง นั่นแปลว่าน้องมีอาการติดเชื้อหรือมีอาการอักเสบภายใน โดยภาวะเหล่านี้จะส่งผลทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นจนกลายเป็นไข้เพื่อหาทางต่อสู้กับแบคทีเรียในร่างกายนั่นเอง ถ้าอาการไอยังคงมีปรากฏอยู่ไม่ยอมหาย ขอแนะนำให้พาน้องไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่านะ

7. น้องอาเจียน

การอาเจียนของสุนัขเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างทั่วไป ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากอาการท้องไส้ปั่นป่วน หรือจากการที่น้องไปกินอะไรผิดสำแดงเข้า ซึ่งไม่มีอะไรต้องกังวลแต่อย่างไร แต่ปัญหาจะใหญ่ขึ้นทันทีหากน้องมีอาการไม่สบายแบบนี้บ่อยครั้งมากกว่าปกติ โดยที่เราสังเกตเห็นได้ว่าน้องกินอะไรถูกต้องเหมาะสมดี แต่น้องก็ยังป่วย

ควรทำอะไรก่อนพาน้องไปหาคุณหมอ

หลังจากที่โทร.นัดแพทย์แล้ว มีหลายวิธีที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยบรรเทาอาการป่วยไข้ของน้องหมาได้ระหว่างที่รอ:

ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดบริเวณรักแร้ จมูกและบริเวณขาหนีบของน้อง

พาน้องไปนอนบริเวณที่อากาศเย็นสบายเพื่อให้น้องสบายตัวขึ้น

ให้น้องได้ดื่มน้ำเย็น ๆ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง

ประคบน้ำแข็งบริเวณหลังศีรษะและขาทั้งสี่ แต่อย่าทำให้น้องรำคาญล่ะ !

จำไว้ว่าการไปหาหมอให้ตรงตามเวลานัดเป็นสิ่งสำคัญมากนะกับการฟื้นตัวของเจ้าหมาน้อยผู้แสนซื่อสัตย์ของคุณ

น้องหมาของคุณเคยเจ็บป่วยบ้างมั้ย ? คุณจะแนะนำให้ทำอะไรได้อีกเพื่อลดไข้ให้น้องหมาก่อนไปหาคุณหมอหรือก่อนที่คุณหมอจะเดินทางมาถึง ? บอกเราได้ที่ช่องคอมเมนต์นี้เลย !

ชีวิตสดใส/สัตว์/ระวัง! 7 สัญญาณที่กำลังบอกว่าน้องหมาของคุณมีไข้ (และคุณควรทำอย่างไรระหว่างรอเจอคุณหมอ)
แชร์บทความนี้