12 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลก
ฟินแลนด์ ดินแดนที่เหล่าผู้คนแสนขยันและตรงต่อเวลาอาศัยอยู่ ได้ครองอันดับที่หนึ่งในการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ฟินแลนด์เป็นประเทศเล็ก ๆ ทางตอนเหนือที่มีความเป็นชาตินิยมอย่างแรงกล้า และ 99% ของประชากรเข้าซาวน่าอย่างต่ำอาทิตย์ละครั้ง อีกทั้งยังเป็นที่ที่กวางสามารถเต็ดเตร่ได้อย่างเป็นอิสระตามท้องถนนของเมืองเล็ก ๆ
ชีวิตสดใสจึงอยากให้คุณได้ลองดู 12 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเทศที่แสนสวยงามและสงบสุขแห่งนี้
1. ชาวฟินแลนด์ใช้เวลาส่วนมากอยู่นอกบ้าน
พื้นที่กว่า 70% ของฟินแลนด์นั้นปกคลุมไปด้วยป่า ด้วยเหตุนี้ชาวฟินแลนด์จึงรู้สึกสบายกายสบายใจเวลาอยู่ท่ามกลางแมกไม้ พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองถูกปกป้องเมื่อตัวเองถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ และธรรมชาติยังช่วยทำให้จิตใจของพวกเขาสงบอีกด้วย ชาวฟินแลนด์มักจะใช้เวลาอยู่นอกบ้าน และไปเดินเขาหรือปั่นจักรยานกันเป็นประจำ
2. น้ำดื่มฟรี
ฟินแลนด์มักถูกเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบนับพัน โดยทะเลสาบเหล่านี้เป็นผลพวงมาจากยุคน้ำแข็งเล็กที่สิ้นสุดไปเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน น้ำในทะเลสาบนั้นบริสุทธิ์มากจนคุณสามารถดื่มโดยตรงจากก๊อกน้ำที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการใด ๆ และแทบทุกร้านอาหารจะมีเหยือกหรือขวดน้ำเปล่าบริการให้คุณฟรี ๆ ต่อให้คุณจะลืมขอกับพนักงานเสิร์ฟก็ตาม
3. มีเงินสงเคราะห์บุตรให้ทุกปีจนกว่าเด็กจะอายุ 17
ที่ฟินแลนด์ ผู้ปกครองจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรประมาณ 3,700 บาท (100 ยูโร) ต่อเดือน และเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อมีเด็กเกิดใหม่ในบ้านอีก ซึ่งจะจ่ายให้จนกว่าเด็กคนนั้น ๆ จะมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ เงินเหล่านี้สามารถนำไปใช้จ่ายได้ ทว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่เอามาใช้ แต่จะเก็บเงินไว้แทนเพื่อที่จะได้เป็นเงินก้อนให้กับลูกสาวหรือลูกชายสำหรับชีวิตในอนาคตของพวกเขา นอกจากนี้หลังให้กำเนิดเด็ก พ่อแม่ก็จะได้รับลังกระดาษจากรัฐบาลที่บรรจุสิ่งของจำเป็นสำหรับเด็กเอาไว้ ซึ่งในกล่องดังกล่าวประกอบไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ 64 อย่าง ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้า ผ้าอ้อม ของเล่น และข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการดูแลเด็กแรกเกิด
4. พิซซ่าอร่อยที่สุดในโลก
ทุกอย่างเริ่มมาจากนายซิลวีโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีของอิตาลี ที่แถลงว่าเขาไม่ชอบอาหารฟินแลนด์เอาเสียเลย และเขายังเจาะจงพูดเหน็บแนมว่าเนื้อกวางรมควันที่แสนจืดชืดนั้นไม่อาจเทียบชั้นกับพาร์ม่าแฮมได้เลย
3 ปีให้หลัง ฟินแลนด์ก็ได้ชนะการประกวดพิซซ่านานาชาติแซงหน้าอิตาลี และได้นำเสนอของขึ้นชื่ออย่าง “พิซซ่าแบร์ลุสโคนี” ซึ่งเป็นพิซซ่าที่มีเนื้อกวางเป็นส่วนประกอบ
5. ประเทศนี้เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการรีไซเคิลขยะ
ประเทศฟินแลนด์นั้นยึดในหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งทำให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีทั้งหมดไปกับสังคมได้โดยก่อของเสียน้อยที่สุด 99% ของของเสียจากชุมชนนั้นถูกรีไซเคิลหรือนำไปเผาเพื่อสร้างพลังงานอีกที ขวดพลาสติก 9 ใน 10 ขวดถูกนำไปรีไซเคิล เช่นเดียวกันกับเครื่องแก้วที่มีเปอร์เซนต์ของผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่สูงกว่า
6. ประชาชนมีความเชื่อมั่นในตำรวจสูง
ลักษณะเฉพาะของตำรวจฟินแลนด์คือการที่องค์กรของพวกเขาเป็นองค์กรเดี่ยว ไม่ใช่โครงสร้างที่แยกจากกันเหมือนประเทศส่วนใหญ่ในโลก ซึ่งนี่เป็นไปเพื่อป้องกันการพยายามบริหารเป็นวงจรโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อผูกขาดและครอบงำตำรวจ ซึ่งผลจากการลงมือปฏิบัติก็ได้แสดงให้เห็นว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของรัฐบาลฟินแลนด์ เพราะผลลัพธ์แสดงออกมาว่า 90% ของชาวฟินแลนด์นั้นเชื่อมั่นในตำรวจ
7. มีการแข่งกีฬาแปลก ๆ อยู่หลายอย่าง
กีฬาคือส่วนหนึ่งในชีวิตของชาวฟินแลนด์ นอกจากกีฬาที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปแล้ว ประเทศนี้ยังมีกีฬาอย่างการแข่งแบกภรรยา ขว้างโทรศัพท์ ล่ายุง เล่นกีตาร์ลม และการเขวี้ยงรองเท้า
8. เป็นประเทศแรกในโลกที่ให้สิทธิ์ประชาชนทุกคนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ตั้งแต่ปี 2010 ฟินแลนด์ได้กลายเป็นประเทศแรกในโลก ที่สิทธิพลเมืองนั้นมีสิทธิในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตรวมอยู่ด้วย รัฐบาลได้ออกข้อบังคับอย่างเป็นทางการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจัดหาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่ประชาชน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประชาชนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ในช่วงที่กฎหมายนี้ประกาศใช้ จะมีอินเทอร์เน็ตใช้หลังจากนี้ต่อไป ในขณะที่รัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศนั้นไม่รับรองว่าจะได้อินเทอร์เน็ตความสูง เพราะกลัวการละเมิดลิขสิทธิ์ ฟินแลนด์นั้นเห็นว่าอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้คนในการทำงาน
9. พ่อใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ มากกว่าแม่
มีกฏหมายหลายข้อในประเทศนี้ที่ออกมาเพื่อให้รางวัลเหล่าพ่อ ๆ ที่มีความแข็งขันในการส่วนร่วมในชีวิตของลูก ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ถึงนาน 9 สัปดาห์ และพ่อจะได้รับ 70% ของเงินเดือนในระหว่างนี้ ซึ่งทำให้ฟินแลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่พ่อมีบทบาทใหญ่สุดในการดูแลลูก
10. ฟินแลนด์อยู่อันดับที่สองของโลกในด้านการบริโภคกาแฟ
อ้างอิงจากสมาคมกาแฟนานาชาติ (International Coffee Association) ชาวฟินแลนด์แต่ละคนบริโภคกาแฟประมาณ 12 กิโลกรัม (26.5 ปอนด์) ต่อปี สิ่งที่เรียกว่าช่วงพักดื่มกาแฟ (kahvitauko) ในที่ทำงานหรือสถานศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับชาวฟินแลนด์ ที่จะต้องแบ่งสรรเวลามาดื่มกาแฟให้ได้เสมอ
11. การศึกษาฟรี
การศึกษาของฟินแลนด์กำหนดให้ผู้เรียนต้องมีความรู้ในภาษาอังกฤษและภาษาฟินนิชในระดับที่ดี ซึ่งพิสูจน์ด้วยการทดสอบในระดับนานาชาติ การศึกษาในสถาบันการศึกษาของเอกชน ทั้งในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยนั้นฟรีสำหรับพลเมืองของสหภาพยุโรป และการศึกษาของประเทศนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันว่าดีที่สุดในโลกอีกด้วย
12. ปรัชญาแห่งความสุข: ซิสุและคัลซาริแคนอิต
คำว่าซิสุ (Sisu) นั้นไม่มีคำที่มีความหมายที่ใกล้เคียงกันทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่มักจะแปลกันว่าเป็นความมุมานะอดทน กล้าหาญ หรือการยืนหยัดต่อเป้าหมายและความยากลำบาก ซิสุนั้นคือความสงบเยือกเย็น คือพลังชีวิต พละกำลัง และการควบคุมอารมณ์ของตน ซึ่งแนวคิดนี้ได้พัฒนาไปเป็นหลักปรัชญา และกลายเป็นวิถีชีวิตเฉพาะตัวของชาวฟินแลนด์ในศตวรรษที่ 20 หลักซิสุในการเลี้ยงดูเด็กนั้นเป็นการปลูกฝังความคิดว่าเด็กสามารถทำได้ในทุกสิ่ง
แล้วคุณล่ะ อยากจะไปลองใช้ชีวิตที่ฟินแลนด์ไหม ? ลองบอกความปราถนาของคุณให้เรารู้ในคอมเมนต์หน่อย !