ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

เรื่องน่าฉงนกว่า 25 เรื่องของการอาศัยอยู่ในเยอรมนีที่ชาวต่างชาติไม่คุ้นเคย

เยอรมนีเป็นประเทศที่ความข่มใจตัวเองของคนในชาติอยู่ร่วมกับเทศกาลรื่นเริง และการบริโภคอาหารที่ผ่านการอบมากเกินไปอยู่ควบคู่กันกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์แบบมีสุขภาพดี ชาวเยอรมันเกือบทุกคนรู้ภาษาอังกฤษ แต่พวกเขาก็ภูมิใจที่ผู้คนจากสองหมู่บ้านใกล้กันอาจจะพูดสำเนียงเยอรมันที่ต่างกัน เรารู้เรื่องเกี่ยวกับประเทศนี้มากมายแต่ประเทศเยอรมนีไม่เคยหยุดมอบข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ให้เราเลย ซึ่งทำให้เราค้นพบอะไรก็ตามซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พวกเราที่ชีวิตสดใสรักที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตในประเทศอื่น ๆ และวันนี้เราจะแบ่งปันสิ่งที่ได้ค้นพบเกี่ยวกับประเทศเยอรมนี และที่ท้ายบทความคุณจะได้อ่านเรื่องราวของชาวเน็ตที่พูดคุยถึงช่วงเวลาที่พวกเขาได้ใช้ในประเทศนี้

ที่อยู่อาศัย

  • บ้านของชาวเยอรมันเกือบทุกหลังจะมีที่วางไข่สำหรับอาหารเช้า, ชั้นวางหนังสือ (สิ่งของที่เจ้าของจะรู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษ), รองเท้าใส่เดินในบ้านชิว ๆ หนึ่งคู่และผ้าห่มส่วนตัวสำหรับคู่รักที่นอนบนเตียงคู่คนละผืน
  • เมื่อพูดถึงการเช่าอพาร์ตเมนต์ คุณต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ ชาวเยอรมันเข้านอนและตื่นนอนเร็ว ไลฟ์สไตล์นี้ส่งผลต่อพฤติกรรมในอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาด้วย มันจึงทำให้มีการห้ามส่งเสียงดังหลังสี่ทุ่มและตามธรรมเนียมแล้วหลังสองทุ่มคุณก็ไม่ควรที่จะดูดฝุ่นหรือแม้แต่ใช้เครื่องซักผ้า และปกติแล้ววันอาทิตย์เป็นวันที่ต้องการความเงียบสุด ๆ
  • บ้านหลาย ๆ หลังทำความร้อนด้วยการใช้ฟืนเพราะมันเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้พิกกาบูได้แบ่งปันเรื่องราวนี้ “ครั้งหนึ่งผมเคยเล่นเกมออนไลน์กับชาวเยอรมันและเราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ มีตอนหนึ่งที่เขาเขียนมาหาผมว่า ‘ฉันต้องไปเติมฟืนในเตาเผาก่อน’ ผมคิดว่ามันเป็นภาษาในเกมหรือไม่ก็เป็นสำนวนบางอย่าง แต่เมื่อผมรู้แล้วว่าเขาต้องไปเติมฟืนในเตาเผาจริง ๆ ผมในฐานะที่เป็นชาวเมืองก็ค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจ”

ขนส่งสาธารณะ

  • บางคนบอกว่าห้องนั่งรอของสถานีรถไฟหลักในเมือง เช่น แฟรงก์เฟิร์ตนั้นค่อนข้างหนาวและนี่ก็เป็นปัญหาอย่างมากเมื่อต้องเดินทางในช่วงหน้าหนาว ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมโดยสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น
  • ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน รถประจำทางหรือขนส่งสาธารณะไหน ๆ ก็ตามจะไม่มีประตูหมุนจ่ายเงิน นี่คือวิธีการของระบบของความเชื่อใจในตัวพลเมือง คนตรวจตั๋วมีน้อยมาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่มี พวกเขาจะใส่เสื้อผ้าทั่วไปและผู้โดยสารก็อาจจะถูกขอให้แสดงตั๋วตอนไหนก็ได้ ค่าปรับสำหรับการโดยสารแบบไม่มีตั๋วอาจจะสูงถึง 2,200 บาท (60 ยูโร) ดังนั้นการซื้อตั๋วหรือบัตรเดินทางเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเพราะจะทำให้ใช้ขนส่งสาธารณะได้โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวล
  • ถ้าคุณเจอป้ายรถเมล์ในเยอรมนีและใช้เวลาหลายวันในการรอรถเมล์ คุณควรจะรู้ว่ามันอาจจะมีแนวโน้มที่จะเป็นป้ายหลอกซึ่งจะไม่มีรถเมล์มาจอดที่ป้ายนั้น ซึ่งจุดประสงค์ของมันคือมีไว้ใช้รับผู้ป่วย ป้ายเหล่านี้จะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับโรงพยาบาล คลินิกและบ้านพักคนชราซึ่งมีผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์อาศัยอยู่ พวกเขามักจะออกจากบ้าน (หรือในกรณีนี้คือออกมาจากโรงพยาบาล) และเมื่อพวกเขาเห็นป้ายรถเมล์ พวกเขาก็หวังว่ารถเมล์จะพาพวกเขาไปไกล ๆ จากที่นั่น พวกเขาจะรอรถเมล์ที่ป้ายที่ไม่มีวันที่รถเมล์จะมาและหมอกับพนักงานของสถาบันทางการแพทย์ก็มักจะเจอพวกเขาและชักจูงให้พวกเขากลับบ้านหรือสถานพยาบาล © Maksnotelk / Pikabu

วันหยุด

  • ในคืนอีสเตอร์วันอาทิตย์ ชาวเยอรมันจะจุดกองไฟขนาดใหญ่ นี่เป็นธรรมเนียมปกติของชาวเยอรมันในการต้อนรับพระอาทิตย์และฤดูใบไม้ผลิ มันยังคงเป็นที่นิยมในแถบชนบท โดยไม้ส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ในการก่อกองไฟจะมาจากต้นคริสต์มาสต้นเก่าที่ถูกเก็บและรวบรวมมาใช้ในโอกาสนี้
  • การเดินขบวน ลูกบอลและเวทีการแสดงเป็นรูปแบบการให้ความบันเทิงที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้เยี่ยมชมที่งานเทศกาลโคโลญ นี่คืองานเทศกาลที่ได้รับความนิยมในแถบไรน์และมีผู้คนนับล้านเข้าร่วมเทศกาลนี้

การศึกษา

  • “เด็กเยอรมันที่ไปโรงเรียนครั้งแรกไม่ได้มีดอกไม้ไปด้วย แต่จะมีกระเป๋าของขวัญพิเศษแทน ญาติ ๆ จะใส่ขนม ของเล่น อุปกรณ์การเรียนและแม้กระทั่งเงินไว้ในกระเป๋าให้กับเด็กนักเรียนในชั้นเรียนแรก” ช่องดอยช์เชอ เวลเลอร์กล่าวไว้ ตามกฎแล้วเด็ก ๆ จะทำกระเป๋ายาวเกือบ 90 เซนติเมตรด้วยตัวเองเชื่อกันว่าไอเดียในการห่อขนมด้วยวิธีนี้ในตอนแรกเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กกินทุกอย่างในครั้งเดียวในระหว่างทางไปโรงเรียน
  • การเริ่มปีการศึกษาไม่จำเป็นต้องเริ่มวันเดียวกันในแต่ละปี แต่มันมักจะเริ่มในช่วงกลางเดือนสิงหาคม
  • ตั้งแต่ปี 2014 การศึกษาระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐในเยอรมนี ยกเว้นในบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์กนั้นฟรีแม้แต่กับชาวต่างชาติ

การพักผ่อนริมน้ำ

  • มีการห้ามก่อปราสาททรายบนชายหาดหลายแห่งในเยอรมนีและมีข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับขนาดของปราสาททรายบนชายหาดที่อนุญาตให้ก่อได้ด้วยโดยกฎของชายหาดทุกแห่งจะอยู่ที่บริเวณทางเข้า
  • หากคุณต้องการตกปลา คุณจำเป็นต้องมีการฝึกพิเศษและได้รับใบอนุญาตโดยคอร์สเรียนจะสอนคุณเกี่ยวกับกฎและข้อปฏิบัติในการตกปลา

อาหาร

  • หากคุณขอน้ำในร้านอาหารหรือคาเฟ่ พนักงานเสิร์ฟอาจจะนำน้ำอัดแก๊สมาให้คุณ ชาวเยอรมันชอบน้ำอัดแก๊สและมักจะผสมกับน้ำมะนาวและน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามคุณดื่มน้ำจากก๊อกได้โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลเนื่องจากน้ำมีคุณภาพดี
  • สามารถหาซื้อพิซซ่า เห็ด นม มันฝรั่ง ไข่และแม้กระทั่งเนื้อสัตว์ได้จากตู้ขายของอัตโนมัติริมถนน จริง ๆ แล้วสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นมีการนำมาขายในรูปแบบนี้บ่อยมาก ดังนั้นถ้าคุณไม่มีเวลาที่จะไปร้านค้าในตอนเย็น ลองมองหาตู้ขายอาหารอัตโนมัติแถวบ้านก็ได้
  • รสชาติและชื่อของขนมหวานของชาวเยอรมันอาจจะฟังดูแปลกมากสำหรับชาวต่างชาติ มิวนิคมีอาหารอย่างชนิทเซลและไอศกรีมเบคอนไทโรเลียนใต้ ส่วนแฟรงค์เฟิร์ตก็มีไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่กับน้ำส้มสายชูบัลซามิก

สังคม

  • สังคมตั้งอยู่บนความเชื่อใจและความซื่อสัตย์แบบสุด ๆ ผู้ใช้พิกกาบูเล่าถึงสิ่งที่เขาสังเกตเห็น “วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และแน่นอนว่าร้านค้าทุกร้านในเยอรมนีปิด แต่สินค้าบางอย่างก็ซื้อได้จากชาวสวน นี่คือร้านค้าที่ไม่มีคนขายที่คุณพบได้ในเกนเกนบาค คุณแค่หยิบสินค้าที่คุณต้องการและวางเงินไว้ นอกจากนั้นยังมีที่แลกเงินอยู่ด้านในด้วย”
  • เนื่องจากว่าบ้านในเยอรมนีในวันอาทิตย์ควรจะเงียบ ครอบครัวที่มีเด็กมักจะใช้เวลานี้บนท้องถนนโดยการเดินเล่นที่สวนสาธารณะ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ไปโรงภาพยนตร์และอื่น ๆ
  • ชาวเยอรมันอาจจะถูกมองว่าเป็นคนสงบนิ่ง สงวนท่าที และแม้กระทั่งเป็นคนเยือกเย็น แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะเป็นคนกลุ่มแรกที่ดูแลคนแปลกหน้า ตัวอย่างเช่น ในหมู่ชาวเยอรมัน การเจอของหายและแขวนไว้บนกิ่งไม้ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำ
  • ชาวเยอรมันที่สุภาพและมีมารยาทจะไม่เริ่มกินอาหารกลางวันของพวกเขาในบริษัทของคนอื่น ถ้าจานของพวกเขามาถึงก่อน พวกเขาจะเริ่มกินก็ต่อเมื่อเจ้าบ้านบอกว่า “กินให้อร่อย!”

งานอดิเรก

  • ชาวเยอรมันชอบการทำสวน ผู้คนส่วนใหญ่มีแปลงปลูกผักเล็ก ๆ อยู่นอกเมืองแต่จริง ๆ แล้วพวกเขาทำสวนในทุก ๆ พื้นที่ที่ทำได้ แม้กระทั่งในเมืองและตัวโนมในสวนก็ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์การตกแต่ง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมด้วย ในยุค 90 การแกล้งกันนี้เป็นที่นิยม โดยผู้คนจะขโมยตัวโนมจากสนามหญ้าของคนอื่นแล้วส่งรูปถ่ายของมันไปให้เจ้าของก่อนที่จะนำมาคืน
  • กลายเป็นว่าชาวเยอรมันทุกช่วงอายุดูจะหลงใหลในฟุตบอลพอ ๆ กับชาวอิตาเลียนหรือชาวสเปน
  • งานอดิเรกของการตั้งใจหาส่วนลดและประหยัดเงินดูจะเป็นเรื่องใหญ่ในเยอรมนี ผู้ที่มองหาข้อเสนอที่ดีที่สุดจะถูกเรียกว่า “ชแนปเชนยาเกอร์” หรือ “นักล่าของถูก”

เสื้อผ้า

  • บนถนนในเบอร์ลิน เป็นไปได้ยากที่จะเห็นผู้คนสวมเสื้อผ้าสีสว่าง คนท้องถิ่นมักจะชอบเสื้อผ้าสีเข้มโดยเฉพาะสีดำ
  • ผู้คนที่มีรายได้ทุกประเภทซื้อเสื้อผ้าที่ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง มันหาได้ทั่วไป คุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • มันอาจจะเป็นแค่ความคิดเห็น แต่ชาวเยอรมันดูจะชอบผ้าพันคอมาก ผู้ที่อาศัยในเยอรมนีโดยทั่วไปแล้วจะมีผ้าพันคอเยอะโดยมีตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม

ของแถม

ฉันอาศัยอยู่ในเยอรมนี เมื่อไม่นานมานี้ ฉันไปพบนรีแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ คุณหมอเป็นผู้ชาย เขาบอกให้ฉันถอดเสื้อผ้าออกและนั่งลงบนเตียงตรวจ แล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่องในทันที เขาเริ่มถามเกี่ยวกับเพื่อนของฉัน ที่ที่เขาทำงานและเขาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับสวนสัตว์ชวาร์ซวัลด์และสถานที่ท่องเที่ยว ให้ตายเหอะ ฉันกำลังนั่งอ้าขาอยู่และคุณเล่าเรื่องรถไฟเหาะให้ฉันฟังเนี่ยนะ! รีบ ๆ ตรวจแล้วก็ปล่อยให้ฉันไปซักทีได้ไหม! ฉันแทบจะจมลงไปกองกับพื้นพร้อมกับเตียงนี้อยู่แล้ว... © “Overheard” / Ideer

คุณรู้สิ่งที่น่าสนใจและพิเศษเกี่ยวกับประเทศเยอรมนีและชาวเยอรมันบ้างไหม

แชร์บทความนี้