ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าพี่ชายของเธอเป็นคนเดียวที่ผิดในเรื่องการหย่าร้างอันขมขื่นของเขา
เมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะแยกย้ายไปจากการแต่งงานของพวกเขา ชีวิตของพวกเขาก็จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยล่ะ พวกเขาจะต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต และบางคนอาจจะจำเป็นต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่อีกด้วย ซึ่งในบ้านหลังนั้นพี่น้องคนอื่น ๆ ก็อาจจะยังอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นสถานการณ์อาจจะเกินควบคุมได้ง่ายมาก ๆ คุณไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ที่จะวิ่งเล่นไปรอบ ๆ บ้านได้อีกแล้วแต่เป็นคนโตเล้วที่บางครั้งก็มีปัญหากับการยอมรับความผิดพลาดของตัวเองในบางครั้ง
ผู้อ่านของชีวิตสดใสที่กำลังมีความกังวลท่านนี้ส่งจดหมายมาหาเราเพื่ออธิบายปัญหาที่เธอมีกับพี่ชายของเธอหลังจากเขาและภรรยาของเขาตัดสินใจแยกทางกัน
ที่ชีวิตสดใส เราได้ปรึกษากันอย่างยาวนานเกี่ยวกับปัญของคุณและเราก็มีเคล็ดลับจำนวนหนึ่งที่จะมอบให้คุณล่ะ
สวัสดี พาโลม่า (Paloma)
ขอบคุณที่ติดต่อเรามาเพื่อเล่าปัญหาให้ฟังนะ พวกเราทั้งหมดต่างก็เคยต้องรับมือกับคนที่จำเป็นต้องยอมรับความจริงในชีวิตของพวกเขาบ้างอย่างสุด ๆ กันมาบ้างแล้วในจุดหนึ่งของชีวิต ดังนั้นเราอาจจะช่วยคุณได้ก็ได้ และในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ คุณจะต้องพูดคุยอย่างจริงจังกับพี่ชายของคุณและช่วยให้เขาเข้าใจว่าเขาทำอะไรผิดไปบ้างด้วยนะ
- เขายังไม่ยอมรับความจริงและมีอีโก้ที่บอบบางมาก นี่เป็นเหตุผล 2 ข้อที่ทำไมคนเราถึงได้เกิดอาการต้องการป้องกันตัวเองขึ้นมาเมื่อคุณพูดเรื่องความผิดพลาดของพวกเขาขึ้นมา และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงใช้ข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเพื่อปกปิดความผิดพลาดของเขาเอง ภายในใจลึก ๆ เขารู้แน่นอนว่าเขาผิดแต่เขายังยอมรับมันไม่ได้ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาทะเลาะกับคุณ
- คุณแก้ไขความต้องการปกป้องตัวเองของเขาไม่ได้ แต่คุณสามารถแนะนำเขาและช่วยเขาให้ไปพบนักจิตบำบัดได้ พฤติกรรมของเขามันเกินกว่าเรื่องการหย่าร้างของเขาแล้วและเขาก็อาจจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต เขาอาจจะปฏิเสธความคิดเรื่องนักจิตบำบัดของคุณ แต่คุณก็ไม่ได้เสียหายอะไรหรอกหากลองพูดเรื่องนี้ขึ้นมาดู
- คุณทำถูกแล้วที่พูดให้เขายอมรับความจริง แต่คุณไม่ควรต้องว่าเขา เราเข้าใจว่าคุณอาจจะเต็มกลืนกับเขาแล้ว แต่การบังคับให้ใครทำอะไรสักอย่างมันจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก คุณอาจจะลองพูดคุยกับเขาอีกครั้งแล้วก็บอกกับเขาเรื่องความผิดพลาดที่เขาทำและเรื่องที่สิ่งนั้นมีผลกระทบกับภรรยาเก่าเขา และต้องพูดด้วยท่าทางที่ใจเย็นหน่อยนะ
- คุณจำเป็นต้องทำให้เขารู้ว่าเขาทำผิดพลาด วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำแบบนั้นก็คือการเริ่มพูดถึงสิ่งที่เขาทำในอดีตโดยไม่จำเป็นต้องกล่าวโทษเขา พยายามจดจ่อในการหาทางออกของปัญหาที่อาจจะมีอยู่ ไม่ใช่แค่เรื่องของปัญหา นอกจากนั้นการส่งเสริมในทางที่ดีอาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรื่องนี้ เพราะเขาดูเหมือนจะสูญเสียเป้าหมายในชีวิตของเขาไป
- เขาไม่มีสิทธิ์จะบอกให้คุณออกไปจากบ้านของคุณ พอเป็นเรื่องนี้ คุณและพ่อแม่ของคุณควรจะเตือนให้เขารู้ว่าเขาเป็นเพียงแขกเท่านั้น ในขณะที่คุณอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลานานแล้ว คุณทั้งหมดอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเขาแต่เขาก็จะต้องย้ายออกไม่ช้าก็เร็ว คุณเองก็จะย้ายออกเมื่อคุณเห็นว่าเหมาะสม ไม่ใช่เมื่อเขาสั่งให้คุณไป
- ถ้าวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดไม่มีผลอะไรกับเขาเลย ก็ให้กันเขาออกจากชีวิตไปเลย ถ้าเขาเอาแต่ปัดทิ้งความช่วยเหลือของคุณและยังทำตัวหัวแข็ง ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องพยายามต่อไป ลองอยู่ให้ห่างจากชีวิตของเขาดูบ้างและความเงียบของคุณอาจจะส่งเสียงได้ดังกว่าคำพูดของคุณก็เป็นได้
คุณเคยเจอกับสถานการณ์ที่เหมือนกับแบบนี้ไหม และถ้าเป็นอย่างนั้นคุณตอบสนองกับมันอย่างไร ? คุณได้พูดคุยเพื่อสมานฉันท์กับญาติหรือเพื่อนของคุณ หรือว่าคุณตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาไปเลย ?