ภาพยนตร์

จากการวิจัยพบว่านักแสดงมีความเครียดและความวิตกกังวลอยู่ในระดับที่สูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดจากความต้องการในงานของพวกเขา แล้วนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักแสดงบางคนต้องให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานด้วยการสนับสนุนหรือพยายามทำให้วันของพวกเขาสดใสขึ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

The Matrix เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่ค่อนข้างล้ำสมัยในเวลานั้น ซึ่งกำกับโดยพี่น้องวาโชสกี้ มันถูกฉายครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ในปี 1999 ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครแฮ็กเกอร์ชื่อนีโอ (ซึ่งแสดงโดยคีอานู รีฟส์) พุ่งเข้าสู่โลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ดิ้นรนและสถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาพาเราไปผจญภัยเพื่อค้นพบว่าทุกสิ่งที่เขาเคยเชื่อว่าเป็นของจริงล้วนเป็นอย่างอื่น

อี.ที. เพื่อนรัก (E.T. the Extra-Terrestrial) ผลงานชิ้นเอกของสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มันสร้างกระแสมากในเวลานั้นโดยเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 1982 และยังคงเป็นภาพยนตร์คลาสสิก เรื่องราวของเด็กกลุ่มหนึ่งที่แอบผูกพันกับสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษย์ต่างดาวและการเดินทางของพวกเขาเพื่อพามันกลับบ้านแสดงให้เราเห็นว่าความรักที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์นั้นเป็นยังไงนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่งรวมตัวกันหลังจากผ่านไปเกือบครึ่งศตวรรษ และพวกเขาได้รำลึกถึงและแม้กระทั่งแบ่งปันความลับที่ไม่เคยมีใครบอกมาก่อนเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขา มาดูกันดีกว่าว่านักแสดงทำอะไรกันบ้าง

การผลิตภาพยนตร์และหนังสือการ์ตูนต้องใช้ความพยายามอย่างมากจากหลาย ๆ คน ตามกฎแล้วพวกเขาพยายามคิดถึงให้ครอบคลุมทุกสิ่ง เมื่อสร้างโลกที่มีรายละเอียดและบุคลิกของตัวละครหลัก แต่ข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ กับความผิดพลาดก็เล็ดลอดออกมาได้แม้จะคิดอย่างรอบคอบที่สุดแล้ว ผู้ชมที่ช่างสังเกตและใส่ใจจะสังเกตเห็นเรื่องเหล่านั้นทั้งหมด

มันยากมากเลยนะที่จะจินตนาการภาพถึงหนังเรื่อง แวมไพร์ ทไวไลท์ (Twilight) ที่มีนักแสดงที่ต่างไปจากนักแสดงชุดเดิม เพราะมันดูแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่บทเอ็ดเวิร์ด (Edward) และเบลล่า (Bella) จะถูกแสดงโดยใครคนอื่นที่ไม่ใช่คู่จิ้นที่สุดโด่งดังอย่างโรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) กับคริสเตน สจ๊วต (Kristen Stewart) แต่ว่าจริง ๆ แล้วหนังเรื่องแวมไพร์ ทไวไลท์เกือบได้นักแสดงชุดอื่นที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลยเชียวแหละ ซึ่งนั่นรวมถึงนักแสดงอย่างเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence), เฮนรี แควิลล์ (Henry Cavill) และแชนนิง เททัม (Channing Tatum)

ทุก ๆ ปี คนหนุ่มสาวหลายพันคนทั่วโลกได้หลั่งไหลเข้าสู่วิทยาลัยการละคร โดยหวังว่าจะได้เข้าเรียนที่นั่น อีกทั้งยังหวังว่าพวกเขาจะเรียนการแสดง มีอาชีพ ได้รับบทดี ๆ ปรากฏตัวอยู่ในความสนใจของผู้คน แจกลายเซ็น และเพลิดเพลินไปกับความรักของแฟน ๆ แต่ก็มีนักแสดงเพียงไม่กี่คนที่สามารถแสดงบทสำคัญเพียงบทเดียว ซึ่งเป็นที่น่าจดจำมากจนแฟน ๆ จดจำพวกเขาได้อีกหลายสิบปีหลังจากที่หยุดพักไปนานจนในที่สุดพวกเราบางคนก็ตัดสินใจค้นหาข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับนักแสดงเหล่านี้ แต่ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะว่าเราได้ทำให้คุณแล้วล่ะ

เมื่อเราได้เห็นช่วงเวลาอันน่าจดจำบนหน้าจอ พวกเขาสามารถเข้ามานั่งอยู่ในใจเราได้ฟรี ๆ เลยล่ะ บางครั้งเราก็พบกับความสุขในตอนที่เรานึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้น แล้วก็มีความสุขยิ่งขึ้นในตอนที่เราได้เห็นพวกเขาอีกครั้งในภาพถ่ายใบใหม่ เหล่าดาราคนโปรดของเราอาจมีสิ่งที่มัดใจเราไว้ ซึ่งก็คือพวกเขาได้สร้างภาพถ่ายที่น่าจดจำขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ตามกฎแล้ว ยิ่งชุดดูสมจริงมากเท่าไร นักแสดงก็จะยิ่งใส่ชุดนั้นๆ ในกองถ่ายได้ยากขึ้นเท่านั้น ประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เต็มไปด้วยหลายกรณีที่เสื้อผ้ากลายเป็นเครื่องทรมานที่แท้จริง

นักออกแบบเครื่องแต่งกายและผู้เชี่ยวชาญด้านภาพหลายสิบคนมีส่วนร่วมในการสร้างหนัง โดยพวกเขาคิดสไตล์ของตัวละครและเช็คดูให้แน่ใจว่าเครื่องแต่งกายนั้นสอดคล้องกับยุคในหนัง แต่ทว่าในบางครั้ง แม้แต่มืออาชีพก็ทำย่อมผิดพลาดกันได้ ส่วนผู้กำกับก็จงใจปล่อยผ่านและไม่สังเกตเห็นความไม่สมจริง จนทำให้หนังดูไม่น่าประทับใจไปเลย

มีคำกล่าวที่ว่าเด็ก ๆ มักโตเร็วเหลือเกิน ซึ่งยากมากที่จะไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้นะ และเรื่องนั้นยิ่งจริงมาก ๆ สำหรับเหล่านักแสดงที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ที่พวกเขายังเป็นเด็ก ๆ แต่ตอนนี้พวกเขากลับโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แถมไม่ง่ายเลยที่เราจะจำพวกเขาได้เพราะพวกเขาดูแปลกตาและดูเป็นผู้ใหญ่มากนั่นเอง

ณ จุดนี้มีตัวละครที่น่าจดจำมากมายที่เรานับไม่ถ้วน แล้วตัวละครเหล่านี้ก็ถูกแสดงโดยนักแสดงที่น่าทึ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวละครตัวเดียวเท่านั้น แต่มีหลายตัวเลยทีเดียว แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ ว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ฮีโร่คนโปรดของเราก็ต้องการเวอร์ชันที่ใหม่ขึ้นเช่นกัน แล้วเราทุกคนพร้อมในเรื่องนี้ ดังนั้นมาตรวจสอบรายชื่อตัวละครภาพยนตร์ที่ยากจะลืมเลือน ซึ่งได้ถูกนำมาโลดแล่นบนจอโดยนักแสดงหลายท่าน (และบางส่วนเราก็ยังไม่ได้เห็น) ตลอดหลายปีที่ผ่านมาในบทความของเรากันเถอะ

หนึ่งในสิ่งที่ชื่นชอบที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในการดูหนังแนวประวัติศาสตร์ ก็คือบรรดาเครื่องแต่งกายที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูด อีกทั้งชุดขนาดใหญ่ที่มีเครื่องประดับตกแต่งมากมาย และทรงผมอันซับซ้อนสุดน่าทึ่งบนหน้าจอ แต่ทว่าในบางครั้งผู้สร้างหนังก็ดันหลงทางและทำสิ่งผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดเชียวล่ะ

ในกระบวนการการทำภาพยนตร์ ทีมวิชวลเอฟเฟกต์จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ออกมาจากจอพื้นหลังสีเขียวหรือสีน้ำเงินได้เสมอ เมื่อทีมนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดต่อแล้ว พวกเขาก็จะเลือกสีที่พวกเขาต้องการเอาออก แล้วคอมพิวเตอร์ก็จะลบสีนั้นออกไปจากภาพนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกฎสำคัญข้อหนึ่งให้จำเอาไว้เวลาที่ใช้พื้นหลัง ตอนถ่ายทำ ตัวละครทั้งหมดจะใส่เสื้อผ้าหรืออะไรก็ตามแต่ที่เข้ากับสีของจอไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะลบมันออกไปหมด ต่อไปเราจะขอโชว์ตัวอย่างว่าภาพยนตร์เรื่องโปรดของเราเขาใช้พื้นหลังกันอย่างไร และเราก็มีโบนัสที่น่ารักมาก ๆ ในตอนจบบทความด้วย

บางครั้ง เมื่อเวลาคุณเปิดทีวีและได้เห็นหนังที่คุณเคยดูตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และเห็นนักแสดงหนุ่มที่คุณจำชื่อเขาไม่ได้ คุณก็อาจจะลองถ่ายรูปเอาไว้ แล้วเอาไปค้นดูปีที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายเสียหน่อย แล้วดูว่าใครกันนะที่นำแสดงในหนังเรื่องนั้น

คนส่วนมากมักพูดว่า “ลูกคุณโตขึ้นเร็วมากเลย” แต่บ่อยครั้งที่ลูกคนอื่นดูเหมือนจะโตเร็วกว่ามาก หนังครอบครัวและซีรีส์ต่าง ๆ มักแนะนำให้เราได้รู้จักกับเหล่าดาราเด็กที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ซึ่งเราก็เคยชินที่จะจดจำภาพพวกเขาในฐานะเด็กตัวน้อย ๆ แสนน่ารักตลอดไป ซึ่งเราต้องตกใจมากแน่ที่ทันใดนั้นจู่ ๆ ก็ได้รู้ว่าพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนี่นา วันนี้ เราขอเชิญคุณให้มาพบกับเหล่าดาราเด็กคนโปรดที่คุณเคยชื่นชอบ และมาดูกันว่าเวลาได้เปลี่ยนแปลงพวกเขาไปมากแค่ไหน

ถ้าเป็นคุณ คุณจะใช้เสื้อผ้า เอฟเฟกต์ต่าง ๆ หรือจะใช้วัตถุใด ๆ มาพรางหน้าท้องของผู้หญิงตั้งครรภ์ดีถ้าจะต้องถ่ายทำภาพยนตร์สักเรื่อง ? มันอาจจะดูแปลกนะ แต่ปัญหานี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยทีเดียวสำหรับคนทำหนัง ถ้าหากหนึ่งในดารานำของพวกเขาตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนหรือระหว่างกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งต้องใช้ตั้งแต่เคล็ดวิธีสุดคลาสสิกอย่างการใส่เสื้อผ้าตัวโคร่ง ๆ ไปจนถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงร่างของนักแสดงในขั้นตอนการตัดต่อเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในวงการฮอลลีวูดทั้งหลายต่างมีวิธีที่จะทำให้หน้าท้องของคุณแม่หายวับไปได้ราวกับเสกโดยเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ (David Copperfield) เลยเชียวแหละ

ซีรีส์ภาคแยกเรื่องใหม่ของช่องเอชบีโอ (HBO) อย่างเรื่อง เฮาส์ ออฟ เดอะ ดราก้อน (House of the Dragon) ได้อิงมาจากหนังสือ อัคคีและโลหิต (Fire & Blood) ของจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R. R. Martin) ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้แฟน ๆ ซีรีส์เรื่อง เกม ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) ได้เห็นดินแดนเวสเทอรอส (Westeros) ช่วงเกือบ 2 ศตวรรษก่อนหน้าการเกิดของเดเนอริส ทาร์แกเรี่ยน (Daenerys Targaryen) แถมยังได้เห็นบรรพบุรุษของเธอที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดก่อนที่จะล่มสลายลงอย่างน่าเศร้าก่อนการเปิดตัวซีรีส์เรื่องนี้ บรรดาชาวเน็ตต่างพากันโต้เถียงเรื่องการคัดเลือกนักแสดงมารับบท เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะพึงพอใจในตัวเลือกของโปรดิวเซอร์ โดยบางคนได้จินตนาการตัวละครที่ต่างออกไป ส่วนบางคนก็ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างจากในหนังสือ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจใช้ AI แต่งภาพ แล้วจินตนาการดูว่าดาราฮอลลีวูดชั้นนำจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างในซีรีส์เรื่อง เฮาส์ ออฟ เดอะ ดราก้อน

คุณอาจจะรู้จักแสดงหญิงหรือชายบางคนเพราะบทบาทที่โดดเด่นบางบทที่พวกเขาเล่นในภาพยนตร์ แต่ถ้าคุณเลื่อนลงไปในรายชื่อผลงานของพวกเขา คุณอาจจะประหลาดใจก็ได้ที่ได้เห็นผลลัพธ์อันคาดไม่ถึง บางครั้งลุคของนักแสดงก็เปลี่ยนไปจนเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำพวกเขาได้ ยกตัวอย่างบางคน เช่น โจ แมงกาเนียลโล (Joe Manganiello) ในภาพยนตร์เรื่อง สไปเดอร์ แมน

มีการสร้างภาพยนตร์สองเรื่องอยู่เสมอระหว่างการผลิตภาพยนตร์: เรื่องหนึ่งอยู่หน้ากล้อง ถูกกำกับและเขียนบท ส่วนอีกเรื่องอยู่หลังกล้อง วินาทีนี้เป็นอะไรที่ส่วนตัวมากขึ้น สามารถคุยได้เต็มที่ สร้างเรื่องราวเพิ่มเติม หรือสร้างช่วงเวลามหัศจรรย์อย่างแท้จริงให้กับทีม และเมื่อคุณรู้เรื่องนี้แล้ว เราก็นำฉากเหล่านั้นมาให้คุณได้ดูกัน

วิทยาศาสตร์สามารถบอกได้หลายสาเหตุว่าทำไมการตั้งครรภ์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสตรีวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้เป็นเรื่องที่จัดการได้ง่ายสำหรับเหล่าซูเปอร์มัมในฮอลลีวูด บทบาทที่โดดเด่นส่วนใหญ่ที่เล่นโดยนักแสดงหญิงคนโปรดของเรานั้นถ่ายทำในขณะที่พวกเธอกำลังแบกความสุขเอาไว้ และเราอาจไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ